หน้าแรก - Lion Star Travel
Hotline

02-4084645-8
081-6269318

Highlight

ไม่พบโปรแกรมทัวร์
ไม่พบโปรแกรมทัวร์

บทความ

  • ตื่นตา! โลกใต้ทะเล “สิมิลัน” พบเริ่มกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
    ตื่นตา! โลกใต้ทะเล “สิมิลัน” พบเริ่มกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
    Lion Star Travel - มีนาคม 7, 2022
    โลกใต้ทะเลสิมิลัน

    เผยภาพงามโลกใต้ทะเลหมู่เกาะสิมิลัน ฝูงปลาและปะการัง เริ่มกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง หลังนักท่องเที่ยวลดลงในช่วงโควิด-19

    นายชนาธิป เข้มแข็ง ผู้บริหารบริษัทเช็คอินอันดามันทัวร์ ซึ่งให้บริการนำเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน-หมู่เกาะสุรินทร์ และเขาหน้ายักษ์ ได้เปิดภาพความสวยงามชวนอเมซิ่งของโลกใต้ทะเล “หมู่เกาะสิมิลัน” ในขณะที่นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง บริเวณจุดดำน้ำ เกาะ 9 และเกาะ 7 ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

    ทั้งนี้พบว่ามีปลากะมงฝูงใหญ่กำลังว่ายน้ำหากินอยู่ตามแนวปะการัง ดูละลานตาสวยงามเป็นอย่างมาก รวมถึงบรรดาปลาสวยงามชนิดต่างๆที่ออกมาว่ายน้ำโชว์ตัวกันอย่างสวยงาม ขณะที่ปะการังนานาชนิดก็เริ่มกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง หลังการท่องเที่ยวลดลงในช่วงโควิด-19

    โลกใต้ทะเลสิมิลัน

    นายชนาธิป เข้มแข็ง เปิดเผยว่า ในขณะนี้เป็นช่วงที่ทะเลอันดามันมีความสวยงามเป็นอย่าง สวยงามทั้งธรรมชาติบนเกาะ หาดทราย ชายทะเล และที่ขาดไม่ได้คือการดำน้ำดูความสวยงามของโลกใต้ทะเล ทั้งแบบการดำน้ำตื้น (Snorkeling) ฟรีไดฟ์วิ่ง (Freediving) การดำน้ำลึก (Scuba diving)

    โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะเปิดการท่องเที่ยวในระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม จนถึงวันที่15 พฤษภาคมของทุกปี จึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวรีบเดินทางมาเที่ยว ก่อนที่จะมีการประกาศปิดเกาะกลางเดือนพฤษภาคม ทางบริษัทเช็คอินอันดามันทัวร์ มีเรือออกให้บริการนำเที่ยวทุกวันทั้งแบบเหมาลำ และแบบจอยทัวร์ โดยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08-1894-4244 https://www.facebook.com/Checkinandaman

    โลกใต้ทะเลสิมิลัน

    อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จ.พังงา เดิมอช.หมู่เกาะสิมิลัน ประกอบด้วยเกาะ 9 เกาะ คือ เกาะหนึ่ง(หูหยง) เกาะสอง(ปายัง) เกาะสาม(ปาหยัน) เกาะสี่(เมียง) เกาะห้า เกาะหก(ปายู) เกาะเจ็ด(หินปูซาร์) เกาะแปด(สิมิลัน) และเกาะเก้า(บางู)

    ต่อมาทางกรมอุทยานฯได้ผนวกรวมเกาะตาชัยและเกาะบอนที่อยู่ในน่านน้ำละแวกเดียวกันเพิ่มเข้าไปอีก 2 เกาะ ทำให้หมู่เกาะสิมิลันปัจจุบันมี 11 เกาะด้วยกัน

    โลกใต้ทะเลสิมิลัน

    สำหรับจุดไฮไลท์หลักของหมู่เกาะสิมิลัน มี 2 เกาะ หลัก ๆ ได้แก่ เกาะสี่ และ เกาะแปด

    เกาะสี่ เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ตั้งของที่ทำการ อช.หมู่เกาะสิมิลัน นอกจากนี้ยังมีบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ

    บนเกาะสี่ มีจุดท่องเที่ยวหลัก คือ “หาดเจ้าหญิง” อันสวยงาม ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใสแจ๋ว และ “หาดเล็ก” ที่มีความเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนตัว

    โลกใต้ทะเลสิมิลัน

    ส่วนเกาะแปด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดสำคัญที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน เพราะมี “หินเรือใบ”ที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำเกาะและเป็นดังสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแห่งนี้

    นอกจากนี้หมู่เกาะสิมิลันยังมีโลกใต้น้ำที่สวยงามน่าทึ่ง มีปะการังหลากหลาย และปลาสวยงาม หลากหลายชนิด สามารถดำน้ำ ได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งหมู่เกาะสิมิลันได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน แหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามและดีที่สุดของโลก

    ที่มา: mgronline.com

  • เที่ยว “อช. หมู่เกาะเภตรา” เดินข้ามเวลา-ตื่นตาปราสาทหินพันยอด-ชมโลกใต้ทะเลสุดสมบูรณ์
    เที่ยว “อช. หมู่เกาะเภตรา” เดินข้ามเวลา-ตื่นตาปราสาทหินพันยอด-ชมโลกใต้ทะเลสุดสมบูรณ์
    Lion Star Travel - กุมภาพันธ์ 21, 2022

    เที่ยว “อช. หมู่เกาะเภตรา” เดินข้ามเวลา-ตื่นตาปราสาทหินพันยอด-ชมโลกใต้ทะเลสุดสมบูรณ์

    หน้าทางเข้าปราสาทพันยอด

    เริ่มเข้าช่วงอากาศร้อน การได้ไปเที่ยวทะเล ไปเล่นน้ำทะเลใสแจ๋ว ตัดกับท้องฟ้าสีครามสดใส น่าจะตอบโจทย์ที่สุด ซึ่งในช่วงนี้ทะเลในฝั่งอันดามันกำลังสวยงามเหมาะแก่การไปเที่ยวชมที่สุด

    สะพานข้ามกาลเวลาที่มองเห็นหินสองยุค

    ครั้งนี้จะขอพาเที่ยวที่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา” จ.สตูล ที่ถึงแม้ว่าชื่อจะไม่คุ้นหูนัก แต่ที่นี่มีความสวยงามโดดเด่นไม่แพ้ที่ใด อีกทั้งหลายสถานที่ท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานฯ นี้ ยังมีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีโลกอีกด้วย

    โดย อช. หมู่เกาะเภตรา เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมะละกาทะเลอันดามัน ในคาบมหาสมุทรอินเดียทางฝั่งตะวันตกของไทย ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดตลอดแนวฝั่งทะเลในท้องที่ อ.ละงู อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

    สะพานข้ามกาลเวลา

    พื้นที่ในเขตอุทยานฯ ประกอบด้วยพื้นที่น้ำทะเล เกาะ ภูเขา ซึ่งพื้นที่ในทะเลประกอบด้วยเกาะที่มีขนาดแตกต่างกันประมาณ 22 เกาะ ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ที่สำคัญคือ เกาะเภตรา เกาะเขาใหญ่ เกาะละโละแบนแต เกาะลิดี เกาะบุโหลน เกาะเหลาเหลียง และเกาะเปรามะ วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ เกาะส่วนใหญ่จะมีรูปร่างแปลกตาเป็นโพรง ถ้ำ หลุมยุบ หน้าผาสูงชัน และชง่อนผาซึ่งเกิดจากการกัดเซาะพังทลายของคลื่นลมและน้ำขึ้นน้ำลง

    สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญของที่ อช. หมู่เกาะเภตรา ก็คือที่บริเวณ “เขาโต๊ะหงาย” เป็นภูเขาลูกโดดๆ ด้านเหนือจรดพื้นที่ราบส่วนด้านใต้เป็นลักษณะของหัวแหลมที่มีผาชันยื่นออกไปในทะเล ด้านตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอ่าวที่เป็นหาดทรายโค้งเว้าเข้าไปในแผ่นดินและเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ เรียกว่า “อ่าวปอ”

    เดินชมความสวยงามข้ามกาลเวลา

    โดยจะมี “สะพานข้ามกาลเวลา” จากที่ทำการอุทยานฯ เลียบไปตามชายฝั่งผาชันด้านตะวันออก แล้วโค้งไปทางตะวันตกผ่านเขตรอยต่อระหว่างหิน 2 ยุค คือหินปูนสีเทาแห่งยุคออร์โดวิเชียนกับหินทรายสีแดงแห่งยุคแคมเบรียน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติปรากฏอยู่ในบริเวณช่วงหนึ่งของหน้าผา จึงเรียกสะพานแห่งนี้ว่าสะพานข้ามกาลเวลาจากหินยุคหนึ่งไปอีกยุคหนึ่งนั่นเอง

    หินหลากสีที่ชายหาดเขาโต๊ะหงาย

    ซึ่งจากสะพานแห่งนี้สามารถชื่นชมเกาะลิดี เกาะเภตรา รวมทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยกลางทะเลอีกหลายเกาะอยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย และนอกจากสะพานข้ามกาลเวลาที่มีหิน 2 ยุคให้ชมแล้ว บริเวณชายหาดเขาโต๊ะหงายยังมี “หาดห้าสี” เป็นหาดทรายเล็กๆ ที่มีหินก้อนกลมมนอยู่ปะปนกันบนชายหาด โดยจะมีหินสีแดง (หรือสีชมพู) สีเทา (หรือสีน้ำเงิน) สีดำ สีเหลือง (หรือสีน้ำตาล) และสีขาว ที่ในยามน้ำลงหินสีเหล่านี้จึงจะโผล่ขึ้นมาจนเกือบเต็มทั้งชายหาดให้ได้เห็นกัน

    ปราสาทหินพันยอด

    อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่อุทยานฯ ก็คือที่ “ปราสาทหินพันยอด” ตั้งอยู่บริเวณเกาะเขาใหญ่ ที่มีชายหาดและน้ำทะเลสีเขียวมรกต ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหินปูนปลายยอดแหลมหน้าตาประหลาดมองดูคล้ายปราสาทที่มียอดนับพัน โดยเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกมากว่าหลายร้อยล้านปีทำให้หินมีรูปร่างแปลกตา การมาเที่ยวที่นี่ต้องพายเรือคายัคลอดผ่านช่องแคบเข้าไปจะพบกับความอลังการของหินทรงปราสาทแห่งนี้

    ซากฟอสซิลนอติลอยด์ที่ถูกค้นพบ

    นอกจากนั้นบริเวณเกาะเขาใหญ่แห่งนี้ ยังมี “อ่าวฟอสซิล” อยู่ด้วย ซึ่งที่เรียกเช่นนี้เพราะในอดีตกว่า 470 ล้านปีก่อน ที่นี่เคยเป็นทะเลโบราณซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากมาย โดยหากใครได้มาเที่ยวและสังเกตให้ดี จะพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ทะเลอย่างจำพวก “นอติลอยด์” สัตว์จำพวกหอย กลุ่มเดียวกับปลาหมึก แทรกตัวอยู่ในเนื้อหินปูนมากมาย

    พายเรือชมป่าชายเลนที่เกาะลิดี (ภาพจากสำนักอุทยานแห่งชาติ)

    และที่บริเวณ “เกาะลิดี” ซึ่งเป็นบริเวณที่ป่าชายเลนมีความสมบูรณ์ ยังมีกิจกรรมการพายเรือแคนูลัดเลาะไปชื่นชมความงามของธรรมชาติสองข้างทางได้อีกด้วย และในยามที่น้ำลดยังมีปะการังเขากวางมากมายให้ได้ชมกันด้วย

    ชมปะการังอ่อนแสนสวยงาม (ภาพจากสำนักอุทยานแห่งชาติ)

    หรือหากใครอยากดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล สามารถมาได้ที่บริเวณ “เกาะเหลาเหลียง” ซึ่งมีปะการังสีอ่อนสวยงามมากมาย หรือที่บริเวณ “เกาะบุโหลน” ก็มีปะการังและปลาสวยงามหลายชนิดรอต้อนรับอยู่

    เกาะเหลาเหลียง (ภาพจาก อช. หมู่เกาะเภตรา)

    หากใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติแสนสงบสุดสมบูรณ์ พร้อมกับได้ความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาไปด้วย ที่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา” แห่งนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่เลยก็ว่าได้

    ที่มา: mgronline.com

    • Lion Star Travel and Son
    • 🌍🏔️🗻🏖️🏝️🚝🚍🛳️✈️
    • รับจัดทัวร์​ VIP, กรุ๊ปเหมา, สัมมนา, ท่องเที่ยว
    • ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
    • ด้วยประสบการณ์กว่า20ปี
    • และทีมงานมืออาชีพที่จะคอยบริการทุกท่าน​
    • ให้ได้สนุกสนานและได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
    • 🙏 จองทัวร์ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
    • ☎️ : 02-408-4645-48
    • LineID : @lionstar
    • ✉️ : lionstartravel99@hotmail.com

    ไม่อยากเที่ยวเองให้เหนื่อย ให้ไลอ้อนสตาร์ดูแลนะคะ​ 😊😊

    #lionstartravel #travel #กรุ๊ปเหมา​ #กรุ๊ปทัวร์​ #ท่องเที่ยว​ #เดินทาง​ #ทัวร์​vip​ #vip #ทัวร์ในประเทศ​ #ทัวร์ต่างประเทศ

  • กิ่วแม่ปาน ความงดงามแห่งยอด ดอยอินทนนท์
    กิ่วแม่ปาน ความงดงามแห่งยอด ดอยอินทนนท์
    Lion Star Travel - กุมภาพันธ์ 14, 2022
    กิ่วแม่ปาน

    กิ่วแม่ปาน หรือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 พฤษภาคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น.

    ลักษณะเส้นทางกิ่วแม่ปานเป็นวงรอบทางเดินลาดชันขึ้นไป และสุดท้ายจะวกกลับมาบรรจบกับทางเดินที่เดินเข้ามาครั้งแรก มีระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ในช่วงระยะกิโลเมตรแรกจะเป็นทางเดินขึ้นเพียงอย่างเดียว มีบันไดทางขึ้นเป็นช่วงๆ สลับกับทางเดินธรรมชาติ ส่วนกิโลเมตรที่ 2 จะเป็นทางเดินลงบนสันเขา 1 กิโลเมตร และทางเดินกิโลเมตรที่ 3 จะเป็นทางเดินในป่า มีทางเดินขึ้นสลับทางเดินลงจนจบ 5 เขาเล็ก โดยจุดที่ชันที่สุดจะอยู่ที่เขาลูกแรกและลูกที่ 4 เพราะมีบันไดเดินขึ้นเรื่อยๆ

    จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน

    จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน นับได้ว่าเป็นไฮไลต์ของกิ่วแม่ปานเลยก็ว่าได้ บริเวณจุดชมวิวเป็นพื้นที่โล่ง มีระเบียงยื่นออก บางวันจะมองเห็นทะเลหมอกที่มีเมฆปกคลุมอยู่ตรงหน้าตัดกับสีทองของทุ่งหญ้าได้ที่บริเวณนี้ และวันที่ฟ้าเปิดจะมองเห็น อ.แม่แจ่ม ที่อยู่เบื้องหน้าได้ชัดเจน

    อีกหนึ่งไฮไลต์ของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ก็คือ กุหลาบพันปี หรือ กุหลาบป่า เป็นพืชหายากมากชนิดหนึ่ง เพราะมีการกระจายพันธุ์ที่จำกัดเฉพาะในเขตอากาศหนาวเย็นบนพื้นที่ชุ่มชื้น เช่น สันเขาหรือหน้าผา และจะออกดอกเพียงปีละครั้ง ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เท่านั้น

    โปรแกรมทัวร์ที่เกี่ยวข้อง

    ที่มา: mgronline

  • ที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ต้องแวะ เมื่ออยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น
    ที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ต้องแวะ เมื่ออยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น
    Lion Star Travel - กุมภาพันธ์ 11, 2022

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่แสนวุ่นวาย วันหนึ่ง ๆ มีแต่เรื่องราวที่น่าปวดหัว มองไปรอบตัวมีแต่ทุนนิยมและธุรกิจ จนอยากลองออกไปเปิดโลกท่องเที่ยวแบบที่ใกล้ชิดชุมชน การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เน้นความเป็นท้องถิ่นและพื้นเมือง ได้ศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ สัมผัสประสบการณ์ธรรมดา ๆ มากกว่าการความสนุกสนานแบบหวือหวา หรือที่เรียกว่า “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม”

    จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักเดินทางแต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกันออกไปตามรสนิยมส่วนตัวและความชื่นชอบ แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การเข้าถึงเสน่ห์ของความสามัญธรรมดาของท้องถิ่น สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นเมืองของชุมชนนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ ล้วนมีวัฒนธรรมท้องถิ่นบางอย่างที่น่าค้นหาทั้งสิ้น

    ถ้าคุณอยากจะเห็นเสน่ห์และบรรยากาศท้องถิ่นจริง ๆ ได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่ธรรมดาและเรียบง่าย รวมถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้น ๆ มีสถานที่ใดบ้างที่คุณต้องแวะไปให้ได้

    ร้านอาหารพื้นเมือง

    อุตส่าห์ได้ไปเยือนถึงถิ่นแล้ว จะทำใจไม่แวะร้านอาหารพื้นเมืองได้อย่างไรกัน อาหารทั่วไปที่เจอได้ดาษดื่นน่ะพับเก็บไปก่อน ต้องมาลิ้มลองอาหารพื้นเมืองสิ ซึ่งร้านอาหารพื้นเมืองนี้ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นร้านหรูระดับภัตตาคารเท่านั้นนะ อย่ามองข้ามพวกร้านเล็ก ๆ ข้างทางที่ขายเฉพาะเมนูอาหารที่มีในท้องถิ่นนั้น ๆ หากอยากเจอร้านที่เด็ดดวงจริง ๆ มีวิธีแนะนำคือให้ลองสังเกตว่าคนในพื้นที่เขาไปกินข้าวที่ไหนกัน จากนั้นก็ตามเขาไปสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้สมใจอยาก

    คาเฟ่ท้องถิ่น

    การตั้งใจแวะร้านกาแฟที่คนท้องถิ่นเขาแวะกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ซึมซับชีวิตความเป็นอยู่และบรรยาการแบบคนท้องถิ่นว่าพวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร อย่าเพิ่งเดินผ่านหน้าร้านเพียงเพราะคุณเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ การเข้าร้านกาแฟไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสั่งกาแฟเท่านั้นมาดื่ม ยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลายที่คุณสามารถเลือกสั่งได้ ซึ่งอาจมีเมนูท้องถิ่นด้วย หากตั้งใจจะไปเที่ยวแบบสัมผัสวัฒนธรรมคนท้องถิ่น อย่าลืมเลือกแวะร้านกาแฟข้างทางในทุกทริป อาจจะทำให้การเที่ยวครั้งนั้นสนุกขึ้นชนิดที่เราก็อาจจะคาดไม่ถึงก็ได้

    ศาสนสถาน

    ศาสนสถานเป็นสถานที่พึ่งพิงทางใจของคนในชุมชน ส่วนใหญ่แล้วคนท้องถิ่นจะมีวิถีชีวิตที่ผูกติดกับความเชื่อและศาสนาค่อนข้างมาก ดังนั้น หากต้องการจะไปเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองในบรรยากาศที่ท้องถิ่นจริง ๆ ให้ลองเลือกไปชุมชนที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ก็จะพบว่าศาสนสถานเป็นสถานที่ที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของชุมชนนั้น ๆ ได้ค่อนข้างชัดเจน เราจะเห็นว่าคนในชุมชนมีความคิด ความเชื่ออย่างไร แม้แต่ความรู้ด้านสถาปัตยกรรมในการออกแบบศาสนสถาน ก็เป็นวัฒนธรรมของชุมชนที่มีมายาวนาน

    พิพิธภัณฑ์

    พิพิธภัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ที่เก็บของเก่าเพียงเท่านั้น เพราะของทุกชิ้นยังผนวกรวมเอาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนเอาไว้ในรูปของวัตถุที่ยังสัมผัสได้ ก่อนที่วัตถุต่าง ๆ จะถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ล้วนเคยเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ ที่ทุกวันนี้อาจมีวิวัฒนาการไปบ้าง แต่ก็ยังเหลือรากเหง้าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา พิพิธภัณฑ์จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่น ตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาหาความรู้และความจรรโลงใจ

    ตลาด

    หากมีโอกาสได้ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น อย่าลืมแวะไปเดินตลาดของชุมชน แม้ว่าตลาดจะดูเป็นสถานที่ที่ไม่น่าจะไปเดินเที่ยว แต่เพราะนี่เป็นอีกแหล่งวิถีชีวิตที่เราสามารถสัมผัสและดื่มด่ำความเป็นท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ตลาดไม่ได้มีความสำคัญแค่ในมิติทางธุรกิจที่เป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าต่าง ๆ เท่านั้น แต่ในมิติทางสังคมและวัฒนธรรม ตลาดเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักมาพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลบางอย่าง มีกิจกรรมที่คนในชุมชนทำด้วยกัน ตลาดจึงเป็นภาพสะท้อนของวิถีชีวิตโดยรวมของคนในชุมชนทุกยุคทุกสมัย

    ที่มา: sanook.com

  • สหราชอาณาจักรยกเลิกตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ มีผล 7 ม.ค.
    สหราชอาณาจักรยกเลิกตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ มีผล 7 ม.ค.
    Lion Star Travel - มกราคม 20, 2022

    นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรประกาศยกเลิกข้อกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางมาอังกฤษต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ เป็นเวลา 2 วันก่อนเดินทางถึง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. 7 ม.ค. เป็นต้นไป โดยผู้เดินทางจะสามารถใช้ชุดตรวจเร็วตรวจเชื้อตัวเองในวันที่ 2 หลังจากเดินทางมาถึงเอง

    ผู้ที่เดินทางมาจะไม่ต้องกักตัวจนกระทั่งผลตรวจออกมาเป็นลบด้วย

    นอกจากนี้ ตั้งแต่ 11 ม.ค. เป็นต้นไป สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษที่ตรวจโควิดด้วยชุดตรวจเร็วแล้วผลออกมาเป็นบวกแต่ไม่มีอาการแต่อย่างใด ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อพีซีอาร์อีกรอบอีกต่อไป

    นายบอริส จอห์นสัน ประกาศระหว่างตอบกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 5 ม.ค. ว่าอังกฤษจะรับมือกับสถานการณ์ด้วย “แผนบี” (Plan B) ต่อไป ซึ่งเป็นการบังคับให้คนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและทำงานจากบ้านถ้าทำได้

    นายเคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วยด้วยเนื่องจากเพิ่งตรวจพบว่าติดโควิด

    วันที่ 5 ม.ค. สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อใหม่ 194,747 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 334 รายที่เสียชีวิตหลังจากติดเชื้อภายใน 28 วัน

    ก่อนหน้านี้ นายทิม ฮอว์กินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายพนักงานของกลุ่มแมนเชสเตอร์ แอร์พอร์ตส (เอ็มเอจี) บอกกับรายการทูเดย์ ของบีบีซีว่า “มีมูลฐานที่จะให้ยกเลิกการตรวจโควิดทั้งหมด” กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรเองที่มีเป็นจำนวนมาก

    “เราผ่านพ้นจุดที่การจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และหากมันไม่เกิดประโยชน์ เราก็ไม่ควรจะทำ แต่ควรยกเลิกข้อกำหนดเหล่านั้นเสีย”

    กลุ่มบริการสายการบินของสหราชอาณาจักรระบุว่าการคงมาตรการตรวจโควิดเอาไว้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมสายการบิน ทำให้ผู้โดยสารขาดความมั่นใจและต้องการเดินทางน้อยลง

    ก่อนหน้านี้เอ็มเอจีได้ส่งผลการวิจัยที่ทางกลุ่มได้ว่าจ้างให้ศึกษา โดยอ้างว่าการตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้ามาในสหราชอาณาจักรมีผลน้อยมาก หรือไม่มีผลใด ๆ เลยต่อการแพร่เชื้อโอมิครอน

    เอ็มเอจีระบุด้วยว่าจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินในเครือลดลงมากกว่า 30% นับตั้งแต่มีการออกมาตรการควบคุมการระบาดของโอมิครอน

    มีข้อกำหนดอย่างไรในปัจจุบัน

    ปัจจุบันสหราชอาณาจักรกำหนดให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จะต้อง :

    • ได้รับการตรวจด้วยชุดตรวจเร็ว (lateral flow test) หรือ ตรวจแบบพีซีอาร์ ที่จะต้องวิเคราะห์ผลตรวจในห้องแล็บ
    • จะต้องจองตรวจพีซีอาร์ล่วงหน้าโดยชำระเงินเอง ก่อนได้รับการตรวจเมื่อเดินทางเข้ามาแล้ว
    • จะต้องกักตัวเองในสถานที่พักจนกว่าจะได้รับผลตรวจ
    • จะต้องกรอกแบบฟอร์มรายละเอียดติดต่อ (passenger locator form) ก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง

    ชุดตรวจเร็วให้ผลแม่นยำ

    ดร.ไมค์ ทิลเดสลีย์ นักระบาดวิทยา บอกบีบีซีว่า ผู้ที่ใช้ชุดตรวจเร็ว (lateral flow test) และพบว่ามีผลเป็นบวก มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิดแน่นอน ดังนั้นควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบว่าติดเชื้อ ส่วนผลตรวจที่เป็นลบอาจยังทำให้สงสัยได้ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ ดร.ทิลเดสลีย์ หวังว่าการตรวจแบบชุดตรวจเร็วเพียงอย่างเดียวจะไม่ส่งผลให้ต้องสูญเสียข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการแยกแยะเชื้อกลายพันธุ์ในอนาคต

    ปัจจุบันสหราชอาณาจักรกำหนดให้ผู้มีผลตรวจด้วยชุดตรวจเร็วเป็นบวก จะต้องได้รับการยืนยันผลด้วยการตรวจพีซีอาร์อีกครั้ง และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่วันที่มีอาการ

    ไทยตัดสินยืดเวลาเทสต์แอนด์โกหรือไม่ในวันศุกร์นี้

    ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือรายละเอียดที่จะนำเสนอในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันศุกร์ที่ 7 ม.ค. นี้ โดยจะพิจารณาเกี่ยวกับระบบเข้าประเทศผ่านรูปแบบเทสต์แอนด์โก (Test and Go) ภายหลังกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค. ยืดเวลาการระงับเทสต์แอนด์โกไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. นี้

    นอกจากนี้ยังจะพิจารณาเรื่องการปรับพื้นที่สีตามสถานการณ์การติดเชื้อของแต่ละจังหวัด เพื่อจำกัดจำนวนคน การรวมกลุ่มทำกิจกรรม และการอนุญาตดื่มสุราในร้านอาหาร

    การปรับมาตรการควบคุมโรค จากเดิมที่มีแนวโน้มว่าจะพิจารณาเปิดสถานบันเทิงในช่วงกลางเดือน ม.ค. แต่ในช่วงปีใหม่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ที่ไม่จัดการภายใต้มาตรการที่จะทำให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด โดย ศบค. จะตัดสินใจว่าจะให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือไม่

    ที่มา: BCC

  • สวยใสบาดใจ “เกาะขาม” ทะเลตราด
    สวยใสบาดใจ “เกาะขาม” ทะเลตราด
    Lion Star Travel - มกราคม 18, 2022
    “เกาะขาม” ทะเลตราด

    สวยใสบาดใจ “เกาะขาม” ทะเลตราด

    ช่วงต้นปีแบบนี้ เกาะต่างๆ ในท้องทะเลตราดก็กำลังสวยใส เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นที่สุด
    ในวันนี้ เราจะพามายัง “เกาะขาม” เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะหมาก จังหวัดตราด และมีความสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราด” เลยทีเดียว

    เกาะขามเป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะหมากเพียงประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น โดยเกาะจะอยู่ตรงข้ามกับอ่าวสวนใหญ่ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหมาก

    ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนบนเกาะขามนี้ก็คือหาดทรายขาวงามละเอียด กับน้ำทะเลที่ใสแจ๋วสงบนิ่งราวกับสระว่ายน้ำชวนให้ลงไปแหวกว่ายกันให้สบายอารมณ์

    เกาะขาม

    เกาะขามยังมีทัศนีภาพสุดเก๋ด้วยหินภูเขาไฟสีดำก้อนกลมๆ ในน้ำทะเลหน้าหาด และกระจายอยู่โดยรอบเกาะ

    การเดินทางไปยังเกาะขามก็ไม่ยากเลย โดยคนที่มาเที่ยวเกาะหมากแล้วอยากข้ามมาที่เกาะขาม ก็สามารถสอบถามกับโรงแรมที่พักของตัวเองได้เลย โดยจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 350 บาท เป็นค่าเรือรับส่งและค่าขึ้นเกาะ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็มาถึงยังเกาะขามแล้ว

    หรือใครที่พักโรงแรมรีสอร์ทที่อ่าวสวนใหญ่ หากมีเรือคายัคพร้อมก็สามารถพายข้ามไปที่เกาะขามได้เลย โดยเสียค่าขึ้นเกาะ 200 บาท และนำไปแลกซื้อเครื่องดื่มได้ 1 อย่างบนเกาะขาม

    ใครที่คิดถึงน้ำทะเลใส หาดทรายขาวสวยแบบนี้ อย่าลืมมาเที่ยวที่เกาะขาม ทะเลตราดกันนะคะ

    เครดิต: mgronline.com

  • คิมป์ตัน คีตาเล สมุย
    คิมป์ตัน คีตาเล สมุย
    Lion Star Travel - มกราคม 17, 2022

    คิมป์ตัน คีตาเล สมุย รีสอร์ตแรกของแบรนด์คิมป์ตันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดให้บริการแล้ววันนี้

    คิมป์ตัน คีตาเล

    คิมป์ตัน คีตาเล สมุย รีสอร์ตแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ IHG Hotels & Resorts เครือโรงแรมและรีสอร์ตสุดหรูระดับโลก เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครอย่างสมการรอคอย ด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตของชาวสมุย ที่ได้รับการถ่ายทอดผ่านการบริการแสนประทับใจสไตล์คิมป์ตัน ร้านอาหารและบาร์อันเป็นที่รักของชาวสมุย รวมถึงดีไซน์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ความหรูหราแต่เข้าถึงง่ายเอาไว้ในที่เดียวกันอย่างโดดเด่นและลงตัว

    คีตาเล เกิดจากการเชื่อมคำไทยสองคำระหว่างคำว่า ‘คีตะ’ ที่หมายถึง บทเพลงหรือการขับร้อง และคำว่า ‘เล’ ที่นอกจากจะมีความหมายว่าทะเลแล้ว ยังรวมไปถึงวิถีชีวิตแห่งท้องทะเลอีกด้วย ‘คีตาเล’ จึงเปรียบเสมือนกับบทเพลงจากท้องทะเล ที่ได้รับการขับกล่อมอย่างก้องกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ของรีสอร์ต เพื่อเฉลิมฉลองวิถีแห่งชีวิตของลูกหลานชาวเลในหมู่บ้านชาวประมงท้องถิ่น ที่มากไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรมอันงดงามและเรียบง่าย

    รีสอร์ตคิมป์ตัน คีตาเล สมุย ตั้งอยู่บริเวณหาดเชิงมน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสมุย เพียงไม่กี่นาทีจากท่าอากาศยานนานาชาติสมุย และเป็นรีสอร์ตติดชายหาดเพียงแห่งเดียวบนเกาะสมุยที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์หมู่บ้านชาวประมง พร้อมความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวของหาดเชิงมนที่ห่างไกลจากความพลุกพล่านและวุ่นวาย

    “เกาะสมุยขึ้นชื่อในด้านความงามอันน่ามหัศจรรย์และเสน่ห์ของชุมชนชาวเกาะ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราในการสรรค์สร้างประสบการณ์สำหรับแขกผู้เข้าพักในรีสอร์ตของเรา ตามแบบฉบับวิถีชีวิตชาวสมุย พร้อมทั้งการนำเสนอเอกลักษณ์และความเฉพาะตัวของคิมป์ตัน อาทิ Social Hour ช่วงเวลาพิเศษในช่วงเย็นของทุกๆ วัน โปรแกรมสำหรับสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่คุ้นเคยของคิมป์ตัน และประสบการณ์ความหรูหราที่เข้าถึงได้ จากพนักงานในรีสอร์ตทุกท่าน ที่พร้อมให้บริการเหนือระดับและปฏิสัมพันธ์ที่จริงใจ ” คุณไมเคิล แจนเซ่น ผู้จัดการทั่วไปของคิมป์ตัน คีตาเล สมุย กล่าว

    มนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมงใกล้ชิดกับท้องทะเล คือแรงบันดาลใจของรีสอร์ตแห่งนี้ ที่ความร่วมสมัยและกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมได้รับการออกแบบอย่างลงตัว โดย P49 Deesign บริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศไทย ได้ประยุกต์ใช้เศษไม้จากเรือประมงมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ชวนให้ย้อนนึกถึงอดีต จนกลายมาเป็นการออกแบบที่เหนือกาลเวลา เช่น งานศิลปะจากช่างฝีมือชาวไทย การตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกลียวทะเล ที่ทำให้ห้องพักและพูลวิลล่าจำนวน 138 ห้องมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยลวดลายกระเบื้องไทยบนพื้นห้องน้ำ และงานศิลปะชิ้นเอกบนผนัง 

    ทุกห้องพักจะมาพร้อมกับเสื้อคลุมอาบน้ำสีฟ้าน้ำทะเลจากผ้าทอมือเนื้อนุ่ม ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษโดยเฉพาะจากช่างตัดเสื้อท้องถิ่น และลำโพงบลูทูธพกพากันน้ำจาก Marley No Bounds ซึ่งในทุกห้องพักยังมาพร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พิเศษที่จะมอบประสบการณ์การผ่อนคลายที่เหนือระดับด้วย amenities กลิ่นซิกเนเจอร์เฉพาะของรีสอร์ตอย่างเกลือทะเลและพิมเสน (Sea salt and Patchouli) ที่มีให้บริการทั้ง bath bombs, bath salts และ milk baths นอกเหนือจากนี้แล้วแขกทุกท่านยังสามารถติดต่อ Face Mask Sommelier เพื่อขอรับคำแนะนำและจัดเตรียมกลิ่นสำหรับมาส์กโดยเฉพาะสำหรับช่วงเวลาแห่งการแช่น้ำผ่อนคลาย

    โปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมเป็นส่วนสำคัญของโรงแรมคิมป์ตัน ทั่วโลก โดย คิมป์ตัน คีตาเล สมุย มีร้านอาหารที่โดดเด่นและน่าดื่มด่ำด้วยกันถึง 5 แห่ง โดยเริ่มจาก LANAI Bar & Lounge นิยามใหม่ของห้องสมุดที่มาพร้อมประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยเมล็ดกาแฟที่ผ่านคัดสรรมาอย่างดี รวมถึงกาแฟไทย Single Origin ใบชาที่ถูกเก็บเกี่ยวมาด้วยมือ (Artisan Tea) และสุราท้องถิ่น อันดับต่อไปคือ Fish House Restaurant & Bar ร้านอาหารริมชายหาดที่เปิดให้บริการทั้งวัน โดยมีเมนูอาหารทะเลคลาสสิกมากมาย รวมทั้งเมนูอาหารทะเลที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ด้วยรสชาติแห่งความสดใหม่ของวัตถุดิบและความจัดจ้านดั้งเดิมจากน้ำจิ้มรสเด็ดที่พลาดไม่ได้  แขกผู้เข้าพักยังสามารถแวะผ่อนคลายจิบค็อกเทลริมสระน้ำ ทำกิจกรรมต่างๆ บนชายหาดได้ที่ SHADES Ocean Lounge and Pool Bar หรือจะเลือกรับประทานอาหารที่คาเฟ่สไตล์ไทยอย่าง Boho ที่ให้บริการตลอดทั้งวันก็ได้เช่นกัน พร้อมเพลิดเพลินไปกับเวิร์คช็อปการทำเบเกอรี่ พร้อมเมนูสร้างสรรค์มากมาย ทั้งเบเกอรี่ ขนมหวาน ชาสูตรพิเศษ และน้ำผลไม้สกัดเย็นสดใหม่ทุกวันได้ที่ HOM Baking Company 

    โปรแกรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของรีสอร์ต ถือเป็นดีเอ็นเอของคิมป์ตัน ที่มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์สำหรับแขกผู้เข้าพักให้น่าจดจำเสมอ โดยเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกิจกรรม Morning Kickstart ดื่มชากาแฟ และพูดคุยกันที่ล็อบบี้เพื่อพร้อมรับวันที่ดี ไปจนถึงกิจกรรม Kimpton’s Social Hour ที่แบรนด์ตั้งใจจะให้เป็นพื้นที่และช่องทางให้คนในพื้นที่ท้องถิ่นและแขกผู้เข้าพักจากต่างถิ่นได้พบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนมุมมองความคิด และเรื่องราวที่ได้เจอมาในแต่ละวัน ที่ขาดไปไม่ได้แน่นอนสำหรับ Kimpton Kitalay Samui’s Furry Guest Programme โปรแกรมพิเศษสำหรับเพื่อนซี้สี่ขา ที่เพียบพร้อมไปด้วย amenities และขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง อาทิ Spirulina Ice Cream หรือแม้แต่ประสบการณ์ Pet Spa Day ที่รอต้อนรับอยู่

    นอกจากนี้ยังมี Junio Kid’s Club ขนาด 500 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของคิมป์ตัน คีตาเล สมุย ที่สร้างขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจจากท่าเรือที่มีชีวิตชีวา โดยออกแบบมาให้เหมาะแก่การวิ่งเล่นและการเรียนรู้จากการผจญภัย การออกสำรวจที่น่าตื่นเต้น โดยไม่ใช้เทคโนโลยีในการสร้างบรรยากาศใด เพื่อเปิดโลกจินตนาการให้กับแขกตัวน้อยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมทั้งกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อให้แขกตัวน้อยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อาทิ กิจกรรมทำผ้ามัดย้อม การสานใบมะพร้าว

    ด้วยจิตวิญญาณแห่งการใส่ใจในสุขภาพที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของร่างกาย Pimãanda by HARNN พร้อมให้แขกทุกท่านได้ผ่อนคลายด้วยบริการซิกเนเจอร์ 14 ขั้นตอน หรือ “Paradise of Wondrous Sea” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรำมโนราห์จากจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย เริ่มต้นด้วย กษิธารา หรือการอาบน้ำนม ก่อนขัดผิวด้วยสครับจากไข่มุกธรรมชาติเตรียมผิวให้พร้อมเปล่งประกาย และ  Trio of Bliss หรือการนวดน้ำมันอุ่นที่ผสมผสานเทคนิคการนวดสามแบบเข้าไว้ด้วยกัน นอกเหนือจากยิมที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงแล้ว แขกผู้เข้าพักก็ยังสามารถเลือกผ่อนคลายในสระว่ายน้ำของรีสอร์ตและสระว่ายน้ำส่วนตัวในวิลล่าได้เช่นกัน หรือจะยืดเส้นยืดสายด้วยโปรแกรมฤๅษีดัดตน สุดยอดภูมิปัญญาไทยเพิ่มสมาธิและระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย

    พบข้อเสนอห้องพักราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 8,400++ บาทต่อคืน เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดให้บริการของรีสอร์ต โดยแขกทุกท่านจะได้รับอภินันทนาการอัพเกรดห้องพักทันที พร้อมรับเครดิตจำนวน 2,500 บาท สำหรับใช้บริการที่สปาของรีสอร์ต ร้านอาหารหรือบาร์ และรับเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์สองแก้วที่บาร์ LANAI สำหรับผู้ที่จองห้องพักตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.kimptonkitalaysamui.com  

    IHG มีความมุ่งมั่นมาอย่างยาวนานในการดำเนินการทำความสะอาดอย่างเข้มงวดที่โรงแรมทุกแห่งทั่วโลก และ โปรโตคอลควบคู่กับแนวปฏิบัติสำหรับรับมือสถานการณ์ COVID-19 ที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยร่วมมือกับคลีฟแลนด์คลินิก, Ecolab และ Diversey ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงการริเริ่ม IHG Clean Promise สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.ihg.com/clean

    Credit: sanook.com

  • หิมะขาวพลิกเขาหลูซาน ดั่งโลกเทพนิยาย
    หิมะขาวพลิกเขาหลูซาน ดั่งโลกเทพนิยาย
    Lion Star Travel - มกราคม 11, 2022

    ชมภาพทัศนียภาพสุดงดงามของเทือกเขาหลูซาน ประเทศจีน ยามหิมะตกและขาวโพลนไปทั้งเขา สวยราวหลุดจากโลกเทพนิยาย

    มาชมภาพชุดนี้จาก สำนักข่าวซินหัว กัน ภาพหิมะขาวโพลน สวยงามดุจเทพนิยาย เผยให้เห็นความงดงามของเทือกเขาหลูซาน ในเมืองจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน

    Credit: Kapook.com

  • รวม พลุ เคาท์ดาวน์ 2022 รอบโลก รับปีใหม่
    รวม พลุ เคาท์ดาวน์ 2022 รอบโลก รับปีใหม่
    Lion Star Travel - มกราคม 5, 2022

    ปีใหม่ 2022 มาเยือนแล้วอย่างเป็นทางการ ถึงในปีนี้ เราจะไม่ได้ไป เคาท์ดาวน์ กันที่ต่างประเทศได้อย่างสนุกสนานเหมือนปีก่อนๆ ด้วยสถานการณ์โควิด สำหรับหลายคนที่คิดถึงการเดินทางไม่ไหวแล้ว เราได้รวบรวมความความสวยงามของ พลุ เคาท์ดาวน์ 2022 จากรอบโลก มาอัพเดทไว้ให้ได้ชม และตื่นตาตื่นใจกับการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่นี้ ด้วยความสุขไปพร้อมๆ กันค่า

    1. ICONSIAM ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ
    ประเทศไทย

    ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ

          ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ฉลอง เคาท์ดาวน์ ในงาน Amazing Thailand Countdown 2022 รับปีใหม่ 2565 ที่ ไอคอนสยาม ภายใต้แนวคิด “Win the World for Thailand” อัตลักษณ์ไทยชนะใจคนทั้งโลก ตระการตากับ Multimedia Firework การแสดงพลุข้าวเหนียวรักษ์โลก สุดตระการตากว่า 30,000 ดอก ยาว 7 นาที ยิงพลุความยาว 1,400 เมตร ยิ่งใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย สว่างไสวทั่วผืนฟ้าและผืนน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา

    🎉 ดูภาพบรรยากาศเต็มๆ ที่ ภาพบรรยากาศ งานเคาท์ดาวน์ 2565 ชมพลุ ไอคอนสยาม ฉลองปีใหม่ Amazing Thailand Countdown 2022

    ===============

    2. Taiwan skyline และ Taipei 101 ไทเป
    ไต้หวัน

    Photo by Gene Wang  Stringer / Getty Images

           พลุเคาท์ดาวน์ ต้อนรับปีใหม่ที่ ตึกไทเป 101 ไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ของการก้าวเข้าสู่ปี 2022 นี้ด้วยแสดงพลุดอกไม้ที่มีความยาวถึง 360 วินาที ซึ่งเป็นการจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟปีใหม่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ มีการใช้แสง สี เสียง และแอนิเมชัน ประกอบกับการจุดพลุดอกไม้ไฟจำนวน 16,000 ลูก ในธีมชื่อว่า “Towards a Better Future” 

    Photo by Gene Wang  Stringer / Getty Images
    Photo by Gene Wang  Stringer / Getty Images

    ===============

    3. Sydney Harbour Bridge ซิดนีย์
    ออสเตรเลีย

    Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images

         ออสเตรเลีย เคาท์ดาวน์ 2022 ปีนี้มากับการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ด้วยพลุไฟรับปีใหม่สุดอลังการนาน 12 นาที ที่ Sydney Harbour Bridge ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เหนือ The Sydney Opera House เป็นภาพที่สวยงาม น่าประทับใจ และอลังการ สมการรอคอยในทุกๆ ปี

    Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images
    Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images

    ===============

    4. Auckland Harbour Bridge ออกแลนด์
    นิวซีแลนด์

          มาต่อกันที นิวซีแลนด์ ซึ่งได้นับถอยหลังสู่ปีใหม่ 2022 ก่อนใคร ซึ่งปีนี้มีการแสดงแสงสี ที่ Sky Tower และ Auckland Harbour Bridge ในชื่อการแสดงคือ “Auckland Is Calling” และงดการแสดงดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นทุกปี แต่ก็สวยงามอลังการไม่แพ้กัน

    ===============

    5. Burj Khalifa ดูไบ 
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

          ดูไบ นครใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ต้อนรับปีใหม่ 2022 ด้วยการแสดงดอกไม้ไฟอันตระการตาจากตึกที่สูงที่สุดในโลก คือ ตึก Burj Khalifa อันโด่งดัง เรียกได้ว่า สวยงามอลังการสุดๆ ไปเลย! 

    ===============

    6. ฮ่องกง เคาท์ดาวน์ 2022

         ฮ่องกง เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ Hong Kong New Year Countdown Celebrations ด้วยการแสดงแสงสีและดอกไม้ไฟ ระยิบระยับด้วยแสงไฟ LED จากตึกสูง 65.8 เมตร และดนตรีคลาสสิกจากการแสดงสดของวงออเคสตรา Hong Kong Philharmonic Orchestra 

    ===============

    7. จตุรัส ไทม์สเเควร์ Time Square นิวยอร์ก
    สหรัฐอเมริกา

          นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มาส่งท้ายปีเก่าด้วย งานเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ 2022 ที่ จตุรัสไทม์สเเควร์ Time Square ปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกบอลคริสตัลหนัก 6 ตันที่ระยิบระยับด้วยเกร็ดแก้ว 2,700 ชิ้น เป็นไฮไลท์ของงาน

    ===============

    8. เปียงยาง เคาท์ดาวน์ 2022 เกาหลีเหนือ

         เกาหลีเหนือ เฉลิมฉลองปีใหม่ ด้วยการแสดงดอกไม้ไฟใกล้ แม่น้ำแทดง (Taedong River) ซึ่งตัดผ่านใจกลางกรุงเปียงยาง เป็นการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกับท่านผู้นำ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข และ พลุอันตระการตา

    ===============

    9. Red Square มอสโก รัสเซีย

          ชาวรัสเซีย ฉลองปีใหม่ เคาท์ดาวน์ 2022 ด้วยดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือ Red Square จัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก มีประชาชนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อชมความสวยงาม และเฉลิมฉลองปีใหม่นี้

    ===============

    Credit: travel.trueid.net

  • ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย
    ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย
    Lion Star Travel - มกราคม 3, 2022
    Chong Pha Khat View Point at Doi Pha Tang, Chiang Rai

    ดอยผาตั้ง เป็นจุดชมทะเลหมอกของจังหวัดเชียงรายที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเดินง่าย ใช้เวลาไม่นาน มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถชมวิวได้ในช่วงเช้าสัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนตัดกับแสงอาทิตย์สีส้ม และช่วงเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงและชายแดนฝั่งลาวได้อีกด้วย

    บนดอยผาตั้งมีจุดชมวิวไฮไลท์อยู่หลายจุด นักท่องเที่ยวส่วนใหญนิยมเข้าพักรีสอร์ทในบริเวณใกล้เคียงและขับรถไปเองหรือเหมารถชาวบ้านเข้าไปยังจุดชมวิว  จากนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเดินเองหรือให้มัคคุเทศก์น้อยพาเดิน  เริ่มต้นจาก ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่ พระพุทธรูป ป่าหินยูนนาน ช่องเขาขาด เนิน 102 และสุดที่เนิน 103 ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุด มีระยะทางเดินทั้งหมด 950 เมตร 

    Credit: https://tatnewsthai.org

  • จะรู้ได้อย่างไรถ้าติดเชื้อ |  COVID-19
    จะรู้ได้อย่างไรถ้าติดเชื้อ | COVID-19
    Lion Star Travel - มกราคม 4, 2021
    ภาพจาก freepik.com

    โควิด-19 ส่งผลต่อผู้คนในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อย
    ถึงปานกลาง และหายจากโรคได้เองโดยไม่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล

    อาการทั่วไปมีดังนี้

    • มีไข
    • ไอแห้ง
    • อ่อนเพลีย

    อาการที่พบไม่บ่อยนักมีดังนี้

    • ปวดเมื่อยเนื้อตัว
    • เจ็บคอ
    • ท้องเสีย
    • ตาแดง
    • ปวดศีรษะ
    • สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรับรส
    • มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี

    อาการรุนแรงมีดังนี้

    • หายใจลำบากหรือหายใจถี่
    • เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก
    • สูญเสียความสามารถในการพูดและเคลื่อนไหว

    โปรดเข้ารับการรักษาทันทีหากมีอาการรุนแรง และติดต่อล่วงหน้าก่อนไปพบแพทย์หรือ
    ไปสถานพยาบาลเสมอผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงและไม่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรรักษาตัวอยู่ที่
    บ้านโดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่ติดเชื้อไวรัสจะแสดงอาการป่วยใน 5-6 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาจใช้
    เวลานานถึง 14 วันจึงจะแสดงอาการ

  • ช้อป กิน เที่ยว เดินทางเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่ม
    ช้อป กิน เที่ยว เดินทางเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่ม
    Lion Star Travel - กรกฎาคม 1, 2020

    1.เมืองฮอยอัน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน ใกล้ชายฝั่งทะเล และเป็นท่าเรือเก่าที่เจริญรุ่งเรืองมากในชื่อไฟโฟ ฮอยอันเป็นศูนย์กลางสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ต่อมาเมื่อฮอยอันได้รับความเสียหายจากการสู้รบและแม่น้ำตื้นเขิน เมืองท่าจึงไปสร้างขึ้นที่เมืองดานังแทน ทำให้ฮอยอันในปัจจุบันสงบเงียบ มีสภาพบ้านเรือนที่สวยงาม สร้างด้วยไม้มีประตูแกะสลักและห้องโปร่งๆ จนองค์การยูเนสโกและรัฐบาลโปแลนด์ได้ริเริ่มให้ทุนทำโครงการบูรณะ เพื่อปกป้องเขตเมืองเก่าและอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่า

    2.สะพานแห่งความรัก เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ให้ท่านได้เห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ เมืองดานัง เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของเวียดนามซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความสำคัญซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลและที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม

    สะพานแห่งความรัก – เมืองดานัง
    สะพานมังกร – เมืองดานัง

    3.สะพานมังกร อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณราคาเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานัง ซึ่งสะพานมังกรแห่งนี้เป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองดานัง ซึ่งมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นมังกรและหางเป็นปลา พ่นน้ำ คล้ายๆสิงคโปร์  

    เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง – เมืองดานัง

    4.วัดหลินอึ๋ง นมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรม

    พระราชวังเว้ – เมืองเว้

    5.พระราชวังเว้ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ายาลอง ใช้เป็นที่รับรองเชื้อพระวงศ์ระดับสูงและนักการทูตต่างประเทศ สถานที่จัดงานฉลองสำคัญๆ ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม เพดาน เสา คาน ผนังตกแต่งด้วยน้ำมันครั่งสีแดงและลวดลายสีทอง มีตำหนักหลายหลัง อุทยาน วัด ศาลเจ้าของจักรพรรดิราชวงศ์เหวียน เมืองเว้ ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศเวียดนาม อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล 12 กิโลเมตร เป็นเมืองของกษัตริย์ในราชวงศ์เหวียน ซึ่งได้ปกครองต่อกันมาเพียง 33 ปี

    ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม – เมืองเว้

    6.ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหอมมาจากบริเวณต้นน้ำที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอม เป็นแม่น้ำสายสั้นๆ บนเรือทางจะได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน และ นักร้องชาวเวียดนามที่จะ มาขับกล่อมบทเพลงให้ท่านได้สนุกสนาน

    บานาฮิลล์รีสอร์ท – เมืองดานัง

    7.บานาฮิลล์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของดานัง ซึ่งการท่องเที่ยวของเวียดนามได้โฆษณาว่าบานาฮิลล์คือ ดาลัดแห่งเมืองดานังบนความสูงถึง 5,810 เมตร เมืองดานัง ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศสเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม จึงได้มีการสร้างถนนขึ้นไปบนภูเขา สร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17 องศาเซลเซียสเท่านั้น

    สะพานสีทอง – เมืองดานัง

    8.สะพานสีทอง หรือ GOLDEN BRIDGE แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดซึ่งอยู่บนเขาบาน่า ฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นชัด สวยงามเป็นอีกจุดท่องเที่ยวนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ท่านสามารถถ่ายรูปภาพวิวเขาบาน่าฮิลล์ ในวิวพาโนรามา 360 องศา ได้อย่างเต็มอิ่ม

    สวนดอกไม้แห่งความรัก – เมืองดานัง

    9.สวนดอกไม้แห่งความรัก หรือ LE JARDIN D’AMOUR เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงามท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าท่านจะอยู่มุมไหนของสวนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอย่างมาก สามารถเดินทางถ่ายรูปพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

    สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค – เมืองดานัง

    10.สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง เกมส์สนุกๆ เครื่องเล่นเบาๆ รถไฟเหาะ หรือจะเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกของสวนสนุก

  • 10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในประเทศเวียดนามเหนือ
    10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในประเทศเวียดนามเหนือ
    Lion Star Travel - กรกฎาคม 1, 2020

    1.เมืองฮอยอัน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน ใกล้ชายฝั่งทะเล และเป็นท่าเรือเก่าที่เจริญรุ่งเรืองมากในชื่อไฟโฟ ฮอยอันเป็นศูนย์กลางสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ต่อมาเมื่อฮอยอันได้รับความเสียหายจากการสู้รบและแม่น้ำตื้นเขิน เมืองท่าจึงไปสร้างขึ้นที่เมืองดานังแทน ทำให้ฮอยอันในปัจจุบันสงบเงียบ มีสภาพบ้านเรือนที่สวยงาม สร้างด้วยไม้มีประตูแกะสลักและห้องโปร่งๆ จนองค์การยูเนสโกและรัฐบาลโปแลนด์ได้ริเริ่มให้ทุนทำโครงการบูรณะ เพื่อปกป้องเขตเมืองเก่าและอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่า

    เมืองฮอยอัน
    สะพานแห่งความรัก – เมืองดานัง

    2.สะพานแห่งความรัก เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ให้ท่านได้เห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ เมืองดานัง เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของเวียดนามซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความสำคัญซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลและที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม

    สะพานมังกร – เมืองดานัง

    3.สะพานมังกร อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณราคาเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานัง ซึ่งสะพานมังกรแห่งนี้เป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองดานัง ซึ่งมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นมังกรและหางเป็นปลา พ่นน้ำ คล้ายๆสิงคโปร์  

    เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง – เมืองดานัง

    4.วัดหลินอึ๋ง นมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรม

    พระราชวังเว้ – เมืองเว้

    5.พระราชวังเว้ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ายาลอง ใช้เป็นที่รับรองเชื้อพระวงศ์ระดับสูงและนักการทูตต่างประเทศ สถานที่จัดงานฉลองสำคัญๆ ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม เพดาน เสา คาน ผนังตกแต่งด้วยน้ำมันครั่งสีแดงและลวดลายสีทอง มีตำหนักหลายหลัง อุทยาน วัด ศาลเจ้าของจักรพรรดิราชวงศ์เหวียน เมืองเว้ ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศเวียดนาม อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล 12 กิโลเมตร เป็นเมืองของกษัตริย์ในราชวงศ์เหวียน ซึ่งได้ปกครองต่อกันมาเพียง 33 ปี

    ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม – เมืองเว้

    6.ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหอมมาจากบริเวณต้นน้ำที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอม เป็นแม่น้ำสายสั้นๆ บนเรือทางจะได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน และ นักร้องชาวเวียดนามที่จะ มาขับกล่อมบทเพลงให้ท่านได้สนุกสนาน

    บานาฮิลล์รีสอร์ท – เมืองดานัง

    7.บานาฮิลล์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของดานัง ซึ่งการท่องเที่ยวของเวียดนามได้โฆษณาว่าบานาฮิลล์คือ ดาลัดแห่งเมืองดานังบนความสูงถึง 5,810 เมตร เมืองดานัง ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศสเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม จึงได้มีการสร้างถนนขึ้นไปบนภูเขา สร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17 องศาเซลเซียสเท่านั้น

    สะพานสีทอง – เมืองดานัง

    8.สะพานสีทอง หรือ GOLDEN BRIDGE แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดซึ่งอยู่บนเขาบาน่า ฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นชัด สวยงามเป็นอีกจุดท่องเที่ยวนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ท่านสามารถถ่ายรูปภาพวิวเขาบาน่าฮิลล์ ในวิวพาโนรามา 360 องศา ได้อย่างเต็มอิ่ม

    สวนดอกไม้แห่งความรัก – เมืองดานัง

    9.สวนดอกไม้แห่งความรัก หรือ LE JARDIN D’AMOUR เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงามท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าท่านจะอยู่มุมไหนของสวนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอย่างมาก สามารถเดินทางถ่ายรูปพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

    สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค – เมืองดานัง

    10.สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง เกมส์สนุกๆ เครื่องเล่นเบาๆ รถไฟเหาะ หรือจะเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกของสวนสนุก

  • 10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในประเทศเวียดนามกลาง
    10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในประเทศเวียดนามกลาง
    Lion Star Travel - กรกฎาคม 1, 2020

    1.เมืองฮอยอัน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน ใกล้ชายฝั่งทะเล และเป็นท่าเรือเก่าที่เจริญรุ่งเรืองมากในชื่อไฟโฟ ฮอยอันเป็นศูนย์กลางสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ต่อมาเมื่อฮอยอันได้รับความเสียหายจากการสู้รบและแม่น้ำตื้นเขิน เมืองท่าจึงไปสร้างขึ้นที่เมืองดานังแทน ทำให้ฮอยอันในปัจจุบันสงบเงียบ มีสภาพบ้านเรือนที่สวยงาม สร้างด้วยไม้มีประตูแกะสลักและห้องโปร่งๆ จนองค์การยูเนสโกและรัฐบาลโปแลนด์ได้ริเริ่มให้ทุนทำโครงการบูรณะ เพื่อปกป้องเขตเมืองเก่าและอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่า

    เมืองฮอยอัน
    สะพานแห่งความรัก – เมืองดานัง

    2.สะพานแห่งความรัก เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ให้ท่านได้เห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ เมืองดานัง เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของเวียดนามซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความสำคัญซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลและที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม

    สะพานมังกร – เมืองดานัง

    3.สะพานมังกร อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณราคาเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานัง ซึ่งสะพานมังกรแห่งนี้เป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองดานัง ซึ่งมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นมังกรและหางเป็นปลา พ่นน้ำ คล้ายๆสิงคโปร์  

    เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง – เมืองดานัง

    4.วัดหลินอึ๋ง นมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรให้ช่วยปกปักรักษา หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรม

    พระราชวังเว้ – เมืองเว้

    5.พระราชวังเว้ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ายาลอง ใช้เป็นที่รับรองเชื้อพระวงศ์ระดับสูงและนักการทูตต่างประเทศ สถานที่จัดงานฉลองสำคัญๆ ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม เพดาน เสา คาน ผนังตกแต่งด้วยน้ำมันครั่งสีแดงและลวดลายสีทอง มีตำหนักหลายหลัง อุทยาน วัด ศาลเจ้าของจักรพรรดิราชวงศ์เหวียน เมืองเว้ ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศเวียดนาม อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล 12 กิโลเมตร เป็นเมืองของกษัตริย์ในราชวงศ์เหวียน ซึ่งได้ปกครองต่อกันมาเพียง 33 ปี

    ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม – เมืองเว้

    6.ล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหอมมาจากบริเวณต้นน้ำที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอม เป็นแม่น้ำสายสั้นๆ บนเรือทางจะได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน และ นักร้องชาวเวียดนามที่จะ มาขับกล่อมบทเพลงให้ท่านได้สนุกสนาน

    บานาฮิลล์รีสอร์ท – เมืองดานัง

    7.บานาฮิลล์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของดานัง ซึ่งการท่องเที่ยวของเวียดนามได้โฆษณาว่าบานาฮิลล์คือ ดาลัดแห่งเมืองดานังบนความสูงถึง 5,810 เมตร เมืองดานัง ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศสเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม จึงได้มีการสร้างถนนขึ้นไปบนภูเขา สร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17 องศาเซลเซียสเท่านั้น

    สะพานสีทอง – เมืองดานัง

    8.สะพานสีทอง หรือ GOLDEN BRIDGE แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดซึ่งอยู่บนเขาบาน่า ฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นชัด สวยงามเป็นอีกจุดท่องเที่ยวนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ท่านสามารถถ่ายรูปภาพวิวเขาบาน่าฮิลล์ ในวิวพาโนรามา 360 องศา ได้อย่างเต็มอิ่ม

    สวนดอกไม้แห่งความรัก – เมืองดานัง

    9.สวนดอกไม้แห่งความรัก หรือ LE JARDIN D’AMOUR เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงามท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าท่านจะอยู่มุมไหนของสวนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอย่างมาก สามารถเดินทางถ่ายรูปพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

    สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค – เมืองดานัง

    10.สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์ของหนัง 4D ระทึกขวัญกับบ้านผีสิง เกมส์สนุกๆ เครื่องเล่นเบาๆ รถไฟเหาะ หรือจะเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกของสวนสนุก

  • วิธีวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับมือใหม่
    วิธีวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับมือใหม่
    Lion Star Travel - กรกฎาคม 1, 2020

    เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีความฝันที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้งในชีวิต แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเดินทาง อาจจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหลายประการ บางคนอาจจะกังวลเรื่องการใช้ภาษาในการสื่อสาร บางคนอาจจะกลัวไม่กล้าเดินทางคนเดียว หรือกังวลเรื่องการเงิน

    แต่อย่าให้อุปสรรคเล็กๆ มาทำลายความฝันอันยิ่งใหญ่ของเราค่ะ มาดูกันว่าเราเตรียมตัวไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันอย่างไรบ้าง …

    1. กำหนดจุดหมายในการเดินทาง  สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือกำหนดจุดหมายปลายทาง เช่น เราอยากไปเล่นสกีที่ ญี่ปุ่น เมืองไหน สกีรีสอร์ทไหน เดือนอะไรที่มีหิมะ เพื่อให้เป้าหมายแคบลง ควรโฟกัสจุดหมายปลายทางให้ชัดเจน
    2. เช็คปฏิทินเดินทาง เดินทางเมื่อไร ไปกี่วัน ไปกับใคร เลือกให้เหมาะกับสถานที่ที่เราจะไป ปัจจุบันมาทางเลือกสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศหลายทาง เช่น ไปกับทัวร์ เดินทางคนเดียว ไปกับกลุ่มเพื่อนสนิท หรือประกาศหาเพื่อนร่วมทางในกลุ่มท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น สามารถเลือกเดินทางตามความชอบของเราค่ะ

      วางแผนเดินทางด้วยตัวเอง เช่น เราจะไปสกีที่ฟูจิ ญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน เริ่มหาข้อมูลและกำหนดสถานที่ที่เราจะไป จากนั้นเช็ตตั๋วเครื่องบิน กับที่พัก จัดแพลนการเดินทางว่าแต่ละวันเราจะไปไหนบ้าง เดินทางด้วยอะไรราคาเท่าไร กิจกรรมทำอะไรราคาเท่าไร ค่ากิจกรรมเท่าไร ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหารกินอะไรราคาเท่าไร งบค่าอาหารตัวอย่าง ราเมง 350 – 1,000 เยนต่อชาม คูณ 3 มื้อ ก็จะเป็นค่าอาหารต่อวัน เป็นต้น

      ข้อดี ค่อนข้างอิสระในการเดินทาง เลือกไปไหนก็ได้ตามงบประมาณและความชอบ จะตื่น จะเดินทาง จะกลับ หรือ อยากแวะไหนนานๆ ก็ได้
      ข้อเสีย ต้องวางแผนการเดินทางเอง จัดการเองทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายอาจบานปลายได้ตามความอิสระของเรา หรืออาจมีหลงทางทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

      เดินทางไปกับทัวร์ สำหรับเพื่อนๆคนไหน ที่ไม่ถนัดวางแพลนการเดินทางเอง ก็เลือกเดินทางไปกับทัวร์จะ สะดวกและปลอดภัย เราสามารถทราบโปรแกรมการเดินทางทัวร์ กิจกรรม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางเบื้องต้นได้
      ข้อดี สะดวกสะบายมีคนดูแลจัดเตรียมการไว้ให้ทุกอย่าง มีไกด์นำทาง ให้ความรู้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาหารการกิน ที่พัก การเดินทาง กิจกรรม จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
      ข้อเสีย เนื่องจากเดินทางเป็นกรุ๊ป มีกำหนดเวลา อาจมีบางที่ที่เราอยากแวะนานๆ หรือไม่อยากแวะนาน อาจไม่อิสระมาก (บางโปรแกรมทัวร์ไม่มีวันอิสะรให้)
    3. เตรียมอุปกรณ์ก่อนเดินทาง เมื่อเราทราบข้อมูลคราวๆ แล้ว เราก็ต้องมาเตรียมจัดกระเป๋าได้เลยค่ะ เริ่มจากอุปกรณ์ที่จำเป็น คือกระเป๋าเดินทาง เสื้อหนาว รองเท้า กล้องถ่ายรูป ยาประจำตัว เป็นต้น ลิสรายการไว้เลยก่อน แต่เราไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ทุกอย่างนะค่ะ เพื่อนๆอาจจะเช่า หรือหาซื้อเป็นมือสองสภาพดีก็ได้ค่ะ ใช้เสร็จถ้าไม่อยากเก็บก็อาจจะมาขายต่อได้ค่ะ
    4. ประกันการเดินทาง อันนี้จำเป็นที่ต้องซื้อเผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด สำหรับการเดินทางด้วยตัวเองก็มีประกันให้เลือกหลายแบบค่ะ แต่ถ้าไปกับทัวร์คือรวมประกันให้เรียบร้อยแล้วอันนี้สะบายใจได้เลยค่ะ
    5. เตรียมเอกสารพร้อมออกเดินทาง เมื่อเราวางแผนค่าใช้จ่าย การเดินทาง ของที่จำเป็นต้องใช้เรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศคือ Passport เช็คอายุพาสปอร์ต แต่ละประเทศมีข้อกำหนดต่างกัน สำหรับญี่ปุ่น การเดินทางไปต่างประเทศนั้นจะต้องมีหนังสือเดินทางมีอายุใช้งานมากกว่า 6 เดือน หรือใครยังไม่มีก็สามารถดูรายละเอียดการทำหนังสือเดินทางได้ที่ http://www.consular.go.th/main/ อีกข้อมูลที่ต้องเตรียมคือชื่อเบอร์โทร สถานทูต และผู้ติดต่อในไทย สำเนาข้อมูลเราติดไว้ในสัมภาระเผื่อลืมของ คนที่เก็บได้จะได้ส่งคืนได้ถูก

    สรุปบท เมื่อมีแผนการแล้วการก็ต้องดำเนินแผนการให้บรรลุเป้าหมาย บทความหน้าเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง วิธีเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศอย่างไรให้ได้เป้า ฉบับมนุษย์เงินเดือน กันค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจท่องเที่ยวไม่มากก็น้อยค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม

  • สถานที่ชมซากุระบาน เดินทางง่าย
    สถานที่ชมซากุระบาน เดินทางง่าย
    Lion Star Travel - มิถุนายน 25, 2020

    ดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเริ่มบานจากทางใต้เรื่อยขึ้นไปทางเหนือ ซึ่งอาจจะแตกต่างในแต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ และโดยทั่วไปซากุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น เรามีสถานที่ชมดอกซากุระบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิจากหลายจังหวัดของญี่ปุ่นมากฝาก ลองมาวางแผนหลบอากาศร้อนแล้วไปเที่ยวชมดอกซากุระผลิบานที่ญี่ปุ่นกัน

    1. สวนนิชิโนะมารุเทเอ็ง ภายในปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

    สวนนี้ตั้งอยู่ภายในอาณาเขตของปราสาทโอซาก้า มีต้นซากุระกว่า 600 ต้นและในฤดูชมซากุระช่วงกลางคืน ที่สวนแห่งนี้จะมีการประดับโคมไฟรอบสวน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของปราสาทและดอกซากุระบานที่สะท้อนกับแสงไฟในยามค่ำคืนได้

    ที่ตั้ง :  เมืองโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า

    การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน ทานิมาจิยนโจเมะ ( Tanamachi 4-chome ) 15 นาที

    ช่วงชมซากุระ : ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน

    เวลาเปิด-ปิด  : 9.00 – 20.00 น.

    2. สวนเค็นโรขุเอ็ง (Kenrokuen Garden)

    หนึ่งในสามสวนที่มีชื่อเสียงและสวยที่สุดของญี่ปุ่น ภายในมีต้นซากุระกว่า 420 ต้น เมื่อถึงเวลาที่ดอกซากุระบานเต็มที่จะงดงามมาก นับว่าเป็นฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ดอกซากุระบานจะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระขึ้น ซึ่งสามารถเข้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู

    ที่ตั้ง : เมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ

    การเดินทาง : จากสถานีรถไฟคานาซาวะ ขึ้นรถประจำทางลงที่ป้าย Kenroku-en shita จะเจอทางเข้าประตู Katsurazaka หากลงป้าย Hirosaka จะเจอทางเข้าประตู Mayumi-zaka หรือลงป้าย Dewa-machi จะเจอทางเข้าประตู Kodatsuno

    ช่วงเวลาชมซากุระ : ต้นเดือน – กลางเดือนเมษายน

    เวลาเปิด – ปิด : 8:00 – 17:00 น.

    3. จิโดริงะฟูจิ (Chidori-ga-fuchi)

    แม้จะมีต้นซากุระไม่มากนักเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่ด้วยความสวยงามที่ไม่รองใคร รอบคูเมืองมีถนนคนเดินยาวกว่า 700 เมตร ถูกปกคลุมไปด้วยต้นซากุระหลากสายพันธุ์กว่า 260 ต้น กลายเป็นอุโมงค์ต้นซากุระที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระจะมีการประดับไฟ ภาพซากุระยามราตรีที่สะท้อนแสงไฟสีฟ้าขาวกระทบลงบนแผ่นน้ำหน้าพระราชวังอิมพีเรียล เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ หากเช่าเรือล่องไปตามทางน้ำของพระราชวังชมดอกซากุระบานก็จะโรแมนติกไม่น้อย

    ที่ตั้ง : เขตจิโยดะ จังหวัดโตเกียว

    การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Kudanshita หรือสถานี Hanzomon จากนั้นเดินต่อไปอีกราวๆ 5 นาที

    เวลาเปิด – ปิด : ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน

  • ชมวิวฟูจิซัง สูดอากาศบริสุทธิ์ อาหารสุดอร่อย
    ชมวิวฟูจิซัง สูดอากาศบริสุทธิ์ อาหารสุดอร่อย
    Lion Star Travel - มิถุนายน 25, 2020

    ทำความรู้จักกับ Oshino Hakkai

    Oshino Hakkai (忍野八海) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมู่บ้านน้ำใส นั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ในเขตพื้นที่เดียวกันกับทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้นั่นเอง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิจึงนิยมเดินทางมาที่หมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้ด้วย ที่นี่มีความสวยงามในระดับที่ว่าได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางธรรมชาติในปีค.ศ. 1934 และได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ทางน้ำที่งดงามร้อยอันดับในปี ค.ศ. 1985 อีกด้วย

    ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เล่าขานกันมาว่าแต่เดิมเป็นพื้นที่ของทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้ทะเลสาบเหล่านั้นมีการเหือดแห้งไปตามธรรมชาติเมื่อเวลากว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือบ่อน้ำทั้ง 8 บ่อที่บรรจุน้ำที่ใสสมชื่อหมู่บ้านเอาไว้เต็มเปี่ยม ซึ่งน้ำใสในบ่อทั้ง 8 นี้คือน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟในช่วงฤดูร้อน ไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนรวมกับแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำนั้นใสแจ๋วอย่างที่เราเห็น

    ชมวิวฟูจิซังอันงดงาม

    เนื่องจากหมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Kawaguchiko และ Yamanakako จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งใสจะมองไปเห็นวิวฟูจิซังท่ามกลางบรรยากาศหมู่บ้านที่เป็นเรือนไม้ สอดแทรกไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น ตัดกับภาพท้องฟ้าที่สดใส ได้เป็นภาพบรรยากาศที่งดงามน่าประทับใจ หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายจุดใดก็สวยสุด ๆ

    Gallery

    Testimonial

    • Kim
      ทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน
    • Tom
      ทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน
    • Ann
      ทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน
      จองผ่านไลน์
      banner